สาวกกุนเชียงรู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วความอร่อยของกุนเชียงหมูของเจ้าสัวไม่ได้มีแค่เพียงหนึ่งเดียว เพราะกุนเชียงหมูของเจ้าสัวมีให้คุณเลือกถึง 3 สไตล์ความอร่อย ซึ่งแต่ละแบบนั้นก็จะมีจุดเด่นและความพิเศษที่แตกต่างกันออกไป มีจุดสังเกตง่าย ๆ อยู่ที่สีของเชือกที่ใช้มัดกุนเชียงนั่นเอง แล้วแต่ละสีนั้นหมายถึงอะไร จะแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ตามไปชิมพร้อมกันเลย!เ

กุนเชียงหมูเนื้อแน่น (สีเขียว) เหมาะกับคนที่ชอบกินกุนเชียงเนื้อเน้น ๆ

ถ้าเรื่องของความแน่นต้องยกให้กุนเชียงหมูเชือกเขียว สูตรมันน้อย ด้วยอัตราส่วนของเนื้อหมูที่มีปริมาณมาก เวลากินจึงได้รสสัมผัสของเนื้อหมูแบบเน้น ๆ แน่น ๆ เต็มคำ เหมาะสำหรับคนที่กำลังรักษารูปร่าง แต่ยังอยากกินกุนเชียงให้อร่อยแบบไม่รู้สึกผิดก็เลือกกินกุนเชียงหมูเชือกเขียวได้เลย

กุนเชียงหมูเนื้อนุ่ม (สีแดง) สายกรอบนอกนุ่มในต้องจัด!!

ใครเป็นสายกรอบแต่ชอบเคี้ยวง่าย ๆ นี่เลยกุนเชียงหมูเชือกแดง เพิ่มมันหมูนุ่ม ๆ เข้าไปในอัตราส่วนที่พอเหมาะพอดี ช่วยเพิ่มความนุ่มละมุนให้กับกุนเชียงอย่างลงตัว พอลงทอดเมื่อไรเป็นต้องหนังกรุบ กรอบนอก เนื้อด้านในนุ่มฉ่ำ เด็ดแบบนี้ไม่ควรพลาด

กุนเชียงหมูเนื้อนุ่มพิเศษ (สีส้ม) เนื้อนุ่มเด้ง กัดคำไหนก็ฟินถึงใจ

กินกุนเชียงให้ฟินถึงใจสุด ๆ ต้องลองกุนเชียงหมูเชือกส้ม รสชาติอร่อยกลมกล่อม Juicy นุ่มลิ้น ทำให้เนื้อกุนเชียงมีความนุ่มเด้ง ยิ่งเคี้ยวยิ่งสนุก ยิ่งกินยิ่งเพลิน กว่าจะรู้ตัวอีกก็หมดจาน

ใครชอบเนื้อสัมผัสแบบไหนก็เลือกกินได้ตามใจชอบ แต่ถ้าจะให้ดีต้องเลือกกุนเชียงจากแบรนด์เจ้าสัวที่ทำจากเนื้อหมูชั้นดี คุณภาพได้มาตรฐาน ปรุงแต่งรสชาติสูตรต้นตำรับจากเจ้าสัว ไม่ใส่สี ขึ้นรูปด้วยเครื่องจักรและกรรมวิธีที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน สะอาด จะกินเล่นหรือทำเมนูไหนก็อร่อยโดนใจทุกเพศทุกวัย

เคล็ดลับความอร่อยจากเจ้าสัว : ไม่ว่าคุณจะเลือกสูตรไหน ถ้าอยากให้กุนเชียงนุ่มและอร่อยมากขึ้น แนะนำให้ต้มกุนเชียงในน้ำเดือด ประมาณ 2 นาที จากนั้นนำขึ้นมาสะเด็ดน้ำ แล้วนำไปทอดในน้ำมัน ใช้ไฟปานกลางจนเหลืองสุก ก็จะได้กุนเชียงที่เนื้อนุ่มมากยิ่งขึ้น และขอแนะนำสำหรับสายรักสุขภาพ ให้นำกุนเชียงไปทอดในน้ำด้วยไฟกลางจนน้ำงวด ก็จะได้กุนเชียงสุกกรอบเคี้ยวอร่อยแบบไร้มัน หรือนำไปย่างก็จะช่วยเพิ่มความหอมกรุ่นไปอีกแบบ โดยกุนเชียงเจ้าสัวของเราสามารถเก็บไว้ได้ที่อุณหภูมิปกติ ซึ่งหากเปิดถุงแล้วรับประทานไม่หมด ควรเก็บไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศา แต่เพื่อความสดใหม่ควรรับประทานให้หมดภายใน 30 วัน